เมื่อไหร่ที่ใครซักคนคิดถึงทะเล ผมคิดว่า "พัทยา" คงเป็นหนึ่งในตัวเลือกอันดับต้นๆ ที่หลายๆ คนเลือกที่จะไป เพราะเป็นชายทะเลที่อยู่ใกล้กรุงเทพฯ แม้จะมีเวลาไม่มากก็ยังมาเที่ยวกันได้ และยังมีที่พักน่าสนใจหลากหลายราคาให้เลือก นอกจากนี้ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวใกล้ๆ กันให้เลือกไปเที่ยวอยู่มากมายหลายแห่ง .....


          ช่วงกลางเดือนตุลาคม 2554 ที่ผ่านมา ผมก็ได้มีโอกาสพาครอบครัวไปเที่ยวพักผ่อนที่ "พัทยา" มาเช่นกัน โดยครั้งนี้เราเข้าพักกันที่ "เซ็นทารา แกรนด์ มิราจ บีช รีสอร์ท" โรงแรมหรูระดับห้าดาว ที่ตั้งอยู่บนหาดวงศ์อมาตย์และหาดนาเกลือ ในซอยนาเกลือ 18 ย่านพัทยาเหนือ ซึ่งผมอยากพาเด็กๆ มาพักที่นี่มานานแล้วแต่เพิ่งมีโอกาสมาจริงๆ ก็คราวนี้ .....




+++ Centara Grand Mirage Beach Resort,Pattaya โรงแรมห้าดาวที่มาในธีม The Lost World +++


          "เซ็นทารา แกรนด์ มิราจ บีช รีสอร์ท" เป็นโรงแรมขนาดใหญ่ ประกอบด้วยสองอาคารหลักสูง 18 ชั้น มีห้องพักรวมกันทั้งหมด 555 ห้อง ภายในโรงแรมตกแต่งด้วยสไตล์ The Lost World ย้อนยุคไปสู่โลกหลงสำรวจที่บรรดาสัตว์ป่ายังครองโลก โดยตึกทั้งสองถูกออกแบบให้เหมือนภูเขาสองลูกที่ถูกเชื่อมกันด้วย Sky Bridge และส่วน Main Lobby ที่ออกแบบเป็นอุโมงค์ คล้ายโถงถ้ำสมัยโบราณ ดูสวยงามแปลกตามากเลยทีเดียว .....


          จุดเด่นอย่างหนึ่งของที่นี่ ที่ทำให้หลายๆ คนเลือกมาพัก ก็คือ "สวนน้ำ" ขนาดใหญ่ ซึ่งประกอบด้วยสระว่ายน้ำหลายขนาดหลากหลายสไตล์ มีทั้งที่สนุกสนานไปกับการลอยตัวบนห่วงยางล่องไปตามสายน้ำใน "Lazy River" หรือสนุกตื่นเต้นไปกับสไลเดอร์ที่มีทั้งของเด็กและผู้ใหญ่ ไปจนถึงสระว่ายน้ำแบบ "Infinity Pool" สำหรับผู้ต้องการความสงบ เพราะห้ามเด็กอายุต่ำกว่า 16 ปีเข้าไปเล่น .....




+++ ประตูทางเข้ารีสอร์ท ดูแล้วเหมือนจะพาเราเข้าสู่การผจญภัยแบบในหนังอินเดียน่าโจนส์ +++




+++ ตัวโรงแรม ประกอบด้วยอาคารใหญ่สองอาคาร คือ North wing และ South wing +++




+++ อาคารแต่ละหลังสูง 18 ชั้น มีห้องพักรวมกันทั้งหมด 555 ห้อง +++




+++ ภายในโรงแรมจะตกแต่งในแนว The Lost World ให้ความรู้สึกเหมือนได้เข้ามาสู่โลกหลงสำรวจ +++


          เราเดินทางไปถึงโรงแรมในช่วงบ่าย ได้เวลาเช็คอินพอดี วันที่เราไปมีแขกเข้าเช็คอินกันไม่มากนัก ใช้เวลาไม่นานก็เสร็จเรียบร้อย หลังจากเช็คอินแล้ว เราจะได้รับ Key Card จำนวน 2 ใบ บัตรแลกผ้าเช็ดตัวที่สวนน้ำเท่าจำนวนคนเข้าพัก และคูปองแลก Welcome Drink ซึ่งสามารถใช้ที่ห้องอาหารห้องไหนก็ได้ที่อยู่ภายในโรงแรม .....


          เราแวะแลกเครื่องดื่มต้อนรับกันที่ "Vistas Lobby Lounge" ซึ่งเป็นเลานจ์บริการเครื่องดื่มและของว่างเบาๆ เช่นขนมเค้กหลากหลายชนิดหน้าตาน่าทาน หลังจากนั้นจึงขึ้นไปพักผ่อนที่ห้องพักแบบ Deluxe Family Ocean Facing Room ภายในห้องมีเตียงนอนขนาดใหญ่แบบคิงไซส์ 2 เตียง ที่นอนนุ่มสบาย นอนแล้วแทบไม่อยากลุกกันเลยทีเดียว ไปชมภาพบรรยากาศในโรงแรมกันเลยดีกว่าครับ .....




+++ น้ำพุรูปสิงโตพ่นน้ำบริเวณ Main Lobby +++




+++ หลังจากเช็คอินแล้ว จะได้คูปอง Welcome Drink นำไปใช้ได้ทุกห้องอาหารของโรงแรม +++




+++ เก็บภาพกับมุมสวยๆ ใน Vistas Lobby Lounge ระหว่างรอ Welcome Drink +++




+++ โซฟาดีไซน์เก๋ๆ นั่งสบายดีเหมือนกัน +++




+++ มาแล้วครับ Welcome Drink เป็นน้ำมะนาวปั่น เย็นชื่นใจ +++




+++ หลังจากนั่งพักดื่มน้ำกันเรียบร้อยแล้ว ก็ขึ้นไปชมห้องพักกันเลยดีกว่าครับ +++




+++ ห้องพักของเราในวันนี้ เป็นห้องแบบ Deluxe Family Ocean Facing Room +++




+++ สองเด็กดื้อถูกใจกับห้องพักมาก +++




+++ ด้านปลายเตียงเป็น LCD TV ติดผนัง พร้อมโต๊ะและเก้าอี้ทำงาน +++




+++ Welcome fruit เป็นส้มและแก้วมังกรลูกโต +++




+++ มุมหนึ่งบริเวณมินิบาร์ภายในห้องพัก +++




+++ ตะขอสำหรับคล้องสายรัดผ้าม่าน จะทำเป็นรูปจิ้งจก แต่ตัวนี้ส่วนหางที่เป็นตะขอหักไปซะแล้ว +++




+++ ห้องอาบน้ำจะเป็นแบบเปิดโล่ง ไม่มีประตู มีเพียงผ้าม่านให้รูดปิดเวลาอาบน้ำ +++




+++ (ซ้าย) ห้องสุขาจะแยกออกมาต่างหากจากห้องอาบน้ำ +++ +++ (ขวา) ห้องอาบน้ำมีทั้งฝักบัวและ Rain Shower +++


          นอกจากเราจะได้สนุกสนานกับการเล่นน้ำในสวนน้ำขนาดใหญ่แล้ว ที่นี่ยังมีกิจกรรมอื่นๆ ให้เลือกทำอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการพายเรือคายัค การเล่นวินเซิร์ฟ, ตีเทนนิส ตีปิงปอง เล่นวอลเลย์บอลชายหาด, การออกกำลังกายเรียกเหงื่อในศูนย์ฟิตเนส, เล่นพูลหรือวิดีโอเกมในห้องเล่นเกม, ทำสปาใน Spa Cenvaree, ปีนหน้าผาจำลองบริเวณใกล้สระว่ายน้ำ หากใครมีเด็กๆ มาด้วย ที่นี่เขามีห้อง Kid's Club ไว้บริการด้วย แต่ไม่ฟรีนะครับ ต้องเสียค่าบริการคนละ 50 บาทต่อชั่วโมง โดยทางโรงแรมจะจัดพี่เลี้ยงคอยดูแลเด็กให้ตลอดเวลา .....




+++ ไปใช้บริการ Kid's Club กันบ้าง ที่นี่ต้องเสียเงินด้วย คนละ 50 บาทต่อหนึ่งชั่วโมง +++




+++ ดื้อเล็กกำลังเพลิดเพลินกับการระบายสีภาพการ์ตูน +++




+++ ผลงานการระบายสีของเด็กๆ ที่มาใช้บริการ Kid's Club +++




+++ มีของเล่นให้เลือกเล่นหลากหลายชนิด อย่างเช่นตัวต่อเลโก้แบบนี้ +++




+++ ชุดเครื่องครัว หรือกระดานลื่นก็มีให้เล่น +++




+++ ดื้อเล็กกำลังสนุกกับการเล่นกระดานลื่น +++




+++ กระดานลื่น จะลื่นลงมาในบ่อบอลที่เต็มไปด้วยลูกบอลสีสดใส +++




+++ ออกไปเดินเล่นบริเวณโดยรอบโรงแรมกันบ้างดีกว่าครับ +++




+++ มุมนี้อยู่ทางด้านหลังโรงแรม เป็นทางออกไปยังสระว่ายน้ำ +++




+++ ช่วงที่ผมไป ดอกบัวดินในแปลงดอกไม้กำลังบานสะพรั่งเต็มไปหมด +++




+++ ขอเก็บภาพกับแปลงดอกไม้สวยๆ กันหน่อยครับ +++




+++ มุมมองจากบนระเบียงห้องพัก ซึ่งทุกห้องจะมองเห็นทะเลได้ทั้งหมด +++




+++ สวนน้ำขนาดใหญ่ของที่นี่ ใครๆ มาก็ติดใจกันทุกคน +++




+++ สไลเดอร์ขนาดใหญ่ มีคนมาเล่นกันไม่ขาดสาย +++




+++ แดดร่มลมตกแล้ว เปลี่ยนชุดลงไปเล่นน้ำกันเลยดีกว่า +++




+++ สองเด็กดื้อเตรียมตัวพร้อมไปเล่นน้ำกันแล้วครับ +++




+++ ดื้อเล็กนั่งแช่น้ำเล่นอย่างสบายใจ +++


          ด้วยความใหญ่โตอลังการของ "สวนน้ำ" ทำเอาสองเด็กดื้อของผม เล่นน้ำกันอย่างเพลิดเพลินจนลืมเวลา แทบไม่อยากเลิกกันเลยทีเดียว นี่ถ้าไม่หนาวจนปากสั่น คงไม่ยอมขึ้นจากสระกันแน่ๆ กว่าจะเลิกเล่นน้ำก็เกือบค่ำแล้ว ระหว่างที่สองเด็กดื้ออาบน้ำแต่งตัว เตรียมตัวออกไปทานอาหารค่ำ ผมก็อาศัยช่วงเวลานั้น ออกไปถ่ายภาพบรรยากาศโรงแรมช่วงโพล้เพล้ เก็บแสงสวยๆ ยามค่ำคืนก่อนฟ้าจะมืดสนิทมาให้ชมกันด้วย ไปดูภาพกันเลยครับ .....




+++ ค่ำแล้ว กลับขึ้นห้องพักกันดีกว่า ห้องพักของเราอยู่บนชั้น 7 +++




+++ บรรยากาศภายในห้องพักในยามค่ำคืน +++




+++ ช่วงทไวไล้ท์แบบนี้ แสงสีทั้งในและนอกห้องพักสวยดีเหมือนกัน +++




+++ แสงไฟอ่อนๆ ในห้องพัก ดูนุ่มนวลสบายตา+++




+++ บนระเบียงหลังห้อง มีเก้าอี้ยาวให้นอนชมวิวแบบสบายๆ +++




+++ บริเวณด้านหน้า Kid's Club ช่วงกลางคืนเปิดไฟสีสันจี๊ดจาดดีจริงๆ +++




+++ มุมฮิตของที่นี่ ใครไปก็ต้องถ่ายภาพกลับมาแทบทุกคน +++




+++ ตึกโรงแรมในยามค่ำคืน เปิดไฟสว่างไสว +++




+++ สระว่ายน้ำแบบ Infinity Pool ตรงนี้ห้ามเด็กอายุต่ำกว่า 16 ปีเข้ามาเล่น +++




+++ หลังสามทุ่ม ร้านเค้กของโรงแรมจะลดราคา 50% เราเลยเลือกซื้อกลับมาทานซะหน่อย +++




+++ ขนมเค้กน่าทานอีกชิ้นหนึ่ง ชิ้นนี้เป็นบลูเบอรี่ชีสเค้ก รสชาติดีทีเดียว +++


          สำหรับอาหารเช้าของที่นี่ ทางโรงแรมจัดเป็นบุฟเฟต์ให้ทานกันที่ "ห้องอาหาร Oasis" อาหารเช้ามีให้เลือกทานมากมายหลากหลายชนิด ตามมาตรฐานโรงแรมห้าดาว มีทั้งอาหารไทยประเภทข้าวและกับข้าว ก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นหมู ข้าวต้ม และอาหารฝรั่งประเภทขนมปัง ไส้กรอก หมูแฮม เบคอน ไข่ดาว ออมเล็ท สลัดผัก ขนมหวานและผลไม้ตามฤดูกาล แต่ต้องขออภัยที่ผมไม่ได้ถ่ายภาพไลน์อาหารมาให้ชมกันเลย เพราะคนเยอะมาก เกรงใจแขกที่มาทานอาหารครับ .....




+++ ทานอาหารเช้ากันที่ห้องอาหาร Oasis +++




+++ ระหว่างรอตักอาหาร ก็เก็บภาพไปพลางๆ +++




+++ ทานอาหารเช้าเสร็จแล้ว ไปเดินเล่นย่อยอาหารกันนะครับ +++




+++ Spa Cenvaree เป็นส่วนสปาของโรงแรม +++




+++ เสาปูนปั้น เป็นรูปช้าง เสือและนก เหมือนเป็น Landmark อย่างหนึ่งของที่นี่ +++




+++ มุมหนึ่งริมสระว่ายน้ำ อาคารที่เห็นในภาพเป็นห้องอาหาร Flames และ Oceans +++




+++ ป้ายบอกทางไปห้องอาหาร สวยเก๋มากๆ +++




+++ บริเวณโดยรอบสระว่ายน้ำ ปลูกต้นไม้ร่มรื่นดี +++




+++ เก็บภาพภายในโรงแรมก่อนจะเช็คเอ๊าท์กลับบ้าน +++


          สามวันสองคืนที่เราได้เข้าพักที่ "เซ็นทารา แกรนด์ มิราจ บีช รีสอร์ท" ถือเป็นช่วงเวลาที่ทำให้เราได้ผ่อนคลายทั้งร่างกายและจิตใจอย่างเต็มที่ รวมทั้งยังได้ตื่นตาตื่นใจไปกับการตกแต่งโรงแรมในแนวโลกหลงสำรวจอีกด้วย หากมีโอกาสเราต้องกลับมาพักที่นี่อีกแน่ๆ เพราะยังติดใจกับสวนน้ำแสนสนุกอยู่ไม่หายเลยล่ะครับ สำหรับทริปนี้ก็คงต้องขอจบเพียงเท่านี้ ไว้พบกันใหม่ทริปหน้า สวัสดีครับ .....

+++ ลากันด้วยภาพสองเด็กดื้อภายในห้องพักของโรงแรมก็แล้วกันนะครับ สวัสดีครับ +++